Latest News

Featured
Featured

Gallery

Technology

Video

Games

Recent Posts

เพิ่มเพื่อน


วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

คนดูเป็นล้าน !! คลิปคุณหมอสาธิตการจัดกระดูก ทำเลือดกำเดาไหลไม่หยุด




เว็บไซต์ Unilad ได้เผยคลิปวิดีโอสุดฮิตโดยเป็นคลิปวิดีโอของคุณหมอกาบริเอเล เบเนเดตติ (Gabriele Benedetti) ศัลยแพทย์ชาวอิตาเลียน ที่ได้มาสาธิตวิธีการรักษาแบบไคโรแพรคติก
แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของชาวเน็ต กลับไม่ใช่วิธีการรักษาแต่อย่างใด
แต่เป็นคนไข้สาวที่สวมเพียงบิกินีสีดำชวนวาบหวิว โชว์รูปร่างสุดเซ็กซี่ ขึ้นเตียงมาให้คุณหมอรักษา นั่นเอง
ซึ่งไม่เพียงแต่คนไข้คุณหมอก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากใบหน้าและหุ่นของที่หล่อล่ำกระชากใจ
ประกอบกับท่วงท่าและลีลาที่คุณหมอรักษาคนไข้สาวรายนี้มันช่างชวนให้สยิวจริงๆ
สำหรับวิธีการรักษาแบบไคโรแพรคติก (Chiropractic) หรือศาสตร์การจัดกระดูก
เป็นการแพทย์ทางเลือกจากตะวันตก ที่ช่วยในการปรับโครงสร้างกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อที่ผิดปกติให้กลับเข้าสู่สมดุล
โดยไม่ต้องใช้ยาและการผ่าตัด ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อึ้ง!!! เผยประสบการณ์จริงจากปาก “สาวอาบอบนวด” ที่สุดแสนจะทรมาน

โคตรตลึงงงงง!!! เผยประสบการณ์จริงจากปาก “สาวอาบอบนวด” ที่สุดแสนจะทรมานเพราะแบบนี้ รู้แล้วถึงกับอึ้ง !!!
เรื่องมีอยู่ว่า………….ดิฉันทำงานอาบ อบ นวดแห่งหนึ่งในกรุงเทพนี่ค่ะ ปัจจุบันอายุ 30 เศษแล้ว เมื่อ 10 กว่าปีก่อนค่าตัวจริงๆ ได้ต่อหัวๆ ละ 300 กว่าบาท ถึง 500 บาท เชื่อมั้ยคะ ต้องอาบน้ำให้แขก โดนทั้งเลียของผู้ชาย โดนประตูหน้า ประตูหลัง เพื่อแลกกับเงินแค่นี้จริงๆ ค่ะ ด้วยการคัดเลือกดิฉัน ได้เบอร์ตอง ซึ่งต้องรับงานมากกว่ารายอื่นๆ อีกทั้งรูปร่างหน้าตาขณะนั้นสวยไม่ แพ้ ใครค่ะ เวลาเดินถนนมีชายหนุ่ม ชายแก่ หญิงสาว มองเหลียวหลัง ไม่ได้แต่งตัวหวือหวานะคะ แต่งกายเรียบๆ แต่หน้าอกค่อนข้างชันและใหญ่
ใครจะคิดล่ะคะว่าทำให้ผู้ชายทั้งคนได้เงินเพียงแค่นั้นต่อหัววันหนึ่งรับงานไม่ต่ำกว่า 5 คนขึ้นไป เริ่มงานบ่ายโมง เลิกงานประมาณ 5 ทุ่มหนึ่งเดือนหยุดประมาณ 4-5 วัน แล้วแต่เลขท้ายเราลงตรงกับวันไหนผู้ที่ใช้บริการ ไม่เลือกวัยค่ะ มีทั้งสุภาพ หยาบคาย และนักบุญเคยถูกคนเมาลวนลามไม่ใส่ถุงยาง ตัวใหญ่ บังคับทุกอย่างไม่ฟังใคร แขกพวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแขกของเจ้าของอาบอบ นวด ทำให้เราไม่กล้าฟ้องต้องก้มหน้าทำด้วยความขมขื่น ไม่ต้องบอกนะคะ ว่าทำไมไม่เลือกเดินทางอื่นมันไม่พอกินค่ะ แล้วดิฉันก็เคยโดนข่มขืนหมู่มาแล้ว ไม่มีใครตามคดีช่วยดิฉันได้เลยคิดประชดตัวเองด้วยการทำงานนี้ซะเลย แต่ก็ไม่ได้สบายดังที่คิดนัก ต่อมามีการตรวจโรคซึ่งมีเป็นประจำอยู่แล้ว
ดิฉันติดเอดส์ อยู่ในขั้นแรกๆ จึงต้องหยุดงานและรักษาตัวเรื่อยมางดเหล้า งดบุหรี่ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงทุกวันไปหาหมอ ได้รับคำแนะนำให้เข้าโครงการฟรี แต่ต้องดูแลตัวเองทุก เดือนต้องไปพบหมอได้รับยาฟรี ในระยะปีกว่าที่รับยาผิวพรรณเริ่มแห้งมีสะเก็ดและดำคล้ำ จึงเปลี่ยนยาและผิวพรรณก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ มีข้อเสียคือ แขน ขา ก้นจะเล็กลีบต้องทานยาวิตามินช่วยซึ่งเราต้องออกเงินซื้อเองเดือนละ 1000 กว่าบาทเงินสะสมก็ร่อยหรอลง ไปจึงคิดเรียนและหางานทำแต่ก็ยังมีแขกบางคนไม่รู้ แวะเวียนมาใช้บริการที่ห้องบ่อยๆ มีรายได้จากการขายตัวเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ก็อยู่ได้ แต่แขกพิเศษที่แวะเวียนมาจะทำตัวสนิทสนมมากจนเกินไปไม่ยอมสวมถุงยาง ดิฉันก็ไม่กล้าบอกว่าเป็นอะไรในเมื่อห้ามไม่ฟังก็ต้องยอมให้แต่โดยดี แต่ดิฉันมีความไม่สบายใจมากๆ เวลาผ่านไป 3-4 เดือนต้องคอยหนีย้ายหอพัก เพราะหากเขารู้ว่าเป็นโรคอาจจะคิดว่าติดกับดิฉันก็ได้หรือพฤติกรรมเขาอาจจะติดกับที่อื่นๆ ก็ได้เพราะบางคนในระยะที่ทำงานนวด อยู่นั้น เขาเป็นโรคแล้วก็เปลี่ยนที่ทำงานไปเรื่อยๆ หากแขกต้องการไม่สวมถุงยาง เขาจะตามใจทันที เขาสมน้ำหน้าที่ไม่ระวังเอง ทุกคนที่เที่ยวต้องระวังนะคะเรื่องจริงทีเดียว
ส่วนดิฉันก็เดือดร้อนต้องย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ แขกที่สวมถุง ดิฉันก็ให้ที่อยู่ใหม่ และให้หาแขกหรือเพื่อนมาเพิ่มทำให้รายได้อยู่ในระดับเดิม แต่ในระยะหลังๆ คุณภาพชีวิตของดิฉันดีขึ้นสุขภาพดีจนเกือบปกติ รับแขกได้มากและแขกก็สวมถุงยางทุกคนทุกครั้ง ยกเว้น แขกใหม่ ที่เพื่อนแขกแนะนำมาซึ่งใช้บริการดิฉันมาเกือบครึ่งปีแล้ว นัดดิฉันไปเที่ยวตากอากาศชายทะเลที่ระยอง บอกว่าจะ มีเพื่อนอีก 3 คนไปด้วย ให้ราคา ดีดิฉันจึงไปกับเขา เขาจะให้ดิฉัน ดื่มเหล้าดิฉันก็ไม่ดื่ม เพราะไม่ถูกกับโรคเวลาทานยา ต้องเข้าห้องน้ำแอบทาน เขาเมามายและหื่นมากๆ ร่วมกับดิฉันนัวเนีย ไปหมดพร้อมกัน โดยชาย 4 คนทำเหมือนหนังเอ็กซ์ฝรั่งที่สำคัญบังคับดิฉันโดยไม่สวมถุง ดิฉันจะบอกว่าเป็นอะไร กลัวเขาไม่เชื่อและหากเชื่อก็ต้องทำร้ายดิฉัน เขานอนพร้อม ๆ กับดิฉันตลอด 3 วัน ทำให้เขาทุกอย่าง จนระบมไปหมด ได้ค่าเหนื่อยมาสองหมื่นบาท
ดิฉันน่ะคุ้มมาก แต่พวกเขาจะคุ้มหรือไม่ฉันรู้ดี และคิดว่าทุกคนต้องติดโรคจากดิฉัันแน่นอนอย่างน้อยที่ดิฉันจำได้แต่ละคนร่วมเพศกับดิฉันไม่ต่ำกว่าคนละ 5-6 ครั้ง จะไม่มีครั้งใดไม่ติดโรคเชียวหรือตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่อีกแล้ว จึงอยากขอเตือนนักเที่ยวท้งหลายเมื่อเที่ยวผู้หญิงๆ ห้ามอะไรต้องเชื่อเพราะว่าเขารู้ตัวเองดี จงตระหนักว่า ผู้หญิงทุกๆ คน ที่คุณไปใช้บริการนั่นกาหัวไว้ก่อนเลยว่า เขาเป็นเอดส์ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ป้องกันตัว เป็นเพราะผู้ชายบังคับเขา ดังนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่เขาได้แก้แค้นผู้ชายโดยไม่ตั้งใจติดโรคไปสู่ เมียที่บ้านมีลูกพลอยติดโรคไปด้วย ชีวิตที่เคยเป็นจะเป็นนรก เช่นดิฉันได้รับ.. ปล. ส่งต่อให้คนอ่านเยอะๆนะค่ะ!! สงสารคุณแม่บ้านจริงๆ
ที่มา : FB Saereepap Chueapohak

ง่ายนิดเดียว! 6 วิธีไล่จิ้งจก ตุ๊กแก ให้ออกจากบ้าน แบบไม่ต้องทำบาปกรรม

จิ้งจก ตุ๊กแก ถือได้ว่าเป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิด ที่สร้างความรบกวนให้ภายในบ้านของเพื่อนๆ ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในส่วนของขี้จิ้งจก ที่มักเจอกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่ง ไม่มีเพื่อนๆ คนไหนชอบกันอย่างแน่นอน วันนี้ คอลัมน์ Home Care จึงได้นำวิธีการไล่จิ้งจกแบบง่ายๆ มาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
1. เปลือกมะนาว
เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์จริงๆ สำหรับมะนาว ที่ทั้งสามารถนำมาปรุงอาหาร ทำความสะอาดเครื่องเรือน และ ยังนำมาไล่จิ้งจกได้อีกด้วย เพียงเพื่อนๆ นำเปลือก มะนาวที่เหลือจากการทำอาหาร ไปถูบริเวณที่จิ้งจกชอบอยู่และบริเวณผนังที่จิ้งจกชอบเกาะ ด้วยความเป็นกรดของมะนาวจะช่วยไล่จิ้งจกไม่กล้าเข้ามาใกล้ เพราะ อาจจะทำให้เกิดความระคายเคืองหรือแสบบริเวณตัวของจิ้งจกได้

แต่หากเพื่อนๆ กลัวว่าผนังจะเลอะเทอะนั้น ก็สามารถนำเปลือกมะนาวใส่ถ้วย แล้วนำไปวางไว้บริเวณตามจุดต่างๆ ของบ้านหรือบริเวณที่จิ้งจกชอบอยู่ ซึ่งกลิ่นของ มะนาวนั้น ก็เป็นอีกสิ่งที่จิ้งจกไม่ชอบ และ ทำให้ไม่กล้าเข้ามาอีกด้วยค่ะ

2. หัวหอม
เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่จิ้งจกรังเกียจและไม่ชอบ สำหรับหัวหอม ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกลิ่นอยู่พอสมควร โดยเพื่อนๆ หั่นหัวหอม ใส่ถ้วยหรือแก้ว และนำไปวางตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน หรือบริเวณที่จิ้งจกชอบอยู่ ซึ่งจะทำให้จิ้งจกไม่กล้าเข้ามา เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็สามารถไล่จิ้งจกได้แล้วค่ะ

3. กระเทียม หัวหอม ผสม น้ำ
มาดูอีกหนึ่งวิธีการไล่จิ้งจก ซึ่งอุปกรณ์หรือส่วนผสม ก็สามารถหาได้ง่ายๆ ภายในครัวของเพื่อนๆ นั้นเอง โดยวิธีการทำนั้น ทุบหรือสับกระเทียบ และ หัวหอม ใส่ลง ในขวด จากนั้นเติมน้ำผสมหรือเขย่าให้เข้ากัน

เมื่อได้น้ำแล้ว ให้นำไปฉีดบริเวณที่จิ้งจกชอบอยู่และบริเวณผนังที่จิ้งจกชอบเกาะ ซึ่งกลิ่นของหัวหอมและกระเทียม จะเป็นสิ่งที่ช่วยไล่จิ้งจกได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก เป็นกลิ่นที่จิ้งจกไม่ชอบนั้นเองค่ะ

4. ลูกเหม็น
สำหรับวิธีนี้ เรียกได้ว่าเป็นวิธีการไล่จิ้งจกที่ง่ายที่สุดเลยก็ว่า เพียงเพื่อนๆ นำลูกเหม็นไปวางตามจุดต่างๆ ภายในบ้านที่จิ้งจกชอบอยู่อาศัย โดยกลิ่นของลูกเหม็นนั้น จะไปรบกวน จนทำให้จิ้งจกนั้นหนีออกไป ซึ่งเป็นอีกกลิ่นที่จิ้งจกไม่ชอบค่ะ

5. เปลี่ยนหลอดไฟ
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่าการไล่จิ้งจกนั้น เกี่ยวกับหลอดไฟอย่างไร? ซึ่ง Infinity Design ผ้าม่าน มองว่าหลอดไฟถือเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิด แมลง และ อย่างที่รู้กันเป็นอย่างดี ว่าแมลงคืออาหารของจิ้งจก หากไม่มีแมลง ก็จะทำให้ไม่มีจิ้งจกหรือลดน้องลงนั้นเอง

ฉะนั้นการเลือกใช้หลอดไฟก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยลดเจ้าแมลง และ จิ้งจกได้ โดยหลอดไฟที่ควรเลือกใช้นั้น ควรเป็นแสงไฟแบบ Warm White ซึ่งแสงที่ได้จะ ออกเป็นโทนส้ม ที่ช่วยลดแมลงได้เป็นอย่างดี หากเพื่อนๆ สงสัยว่าแสงไฟแบบ Warm White เป็นอย่างไรนั้น สามารถชมเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ ลักษณะหลอดไฟ และการเลือกใช้

6. เลี้ยงแมว
มาเอาใจสาวกน้องแมวกันบ้าง โดยงานหลักอีกอย่างของเจ้าน้องแมวนั้นก็คือ การไล่จับจิ้งจก นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จิ้งจกกลัวและไม่กล้าเข้ามาภายในบ้าน แต่วิธีนี้ อาจจะไม่เหมาะกับเพื่อนๆ ทุกคน เนื่องจากบางบ้านอาจจะไม่ชอบการเลี้ยงสัตว์ แต่สำหรับสาวกแมวทั้งหลายนั้น คงต้องชอบวิธีนี้กันอย่างแน่นอนค่ะ


ที่มา...infinitydesign.in.th

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา

นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากร่วมกันค้นหาสาเหตุที่ เรือ เครื่องบินหายที่เบอร์มิวดา ล่าสุดได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับการไขปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาออกมาในรายการ What on Earth ของสถานีโทรทัศน์ Science Channel
โดยสองนักวิทยาศาสตร์ในสายอุตุนิยมวิทยา เผยสาเหตุที่ทำให้เรือและเครื่องบินที่เคลื่อนผ่านสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย น่าจะเป็นผลมาจากสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรง ทำให้เมฆที่มีลักษณะ 6 เหลี่ยมเกิดขึ้น และรวมตัวกันจนมีพลังคล้ายกับพายุขนาดใหญ่ความเร็วลมถึง 170 ไมล์ต่อชั่วโมง ที่สามารถทำให้เรือ หรือเครื่องบินตกลงไปในทะเลได้

วันแรกที่ผมเข้ารับราชการ ทำให้ผมรู้ว่า "นี่แหละหมอ คือสิ่งแรกที่ราชการสอนให้เราโกง"

Dr-Jidbhong Jayavasu / วันแรกที่ผมเข้ารับราชการ ผมถูกเจ้านายที่ยังไม่เคยรู้จักกันเลยด่าผมว่าทำผิด เพราะผมเซ็นชื่อและลงเวลาตรงตามเวลาที่ผมไปถึงที่ทำงานคือ 08:30 น. ทำให้ตัวท่านและคนที่มาทีหลังผมต้องเซ็นชื่อใต้เส้นแดงหมด
ทุกคนจึงเกลียดขี้หน้าผม จนกระทั่งผู้ใหญ่ที่ผมรักและเคารพท่านหนึ่งกล่าวกับผมว่า "นี่แหละหมอ คือสิ่งแรกที่ราชการสอนให้เราโกง" ท่านนายกครับ สิ่งแรกที่ต้องทำในการปฏิรูประบบราชการคือ "หยุดคอรัปชั่นเวลาให้ได้" ถ้าเรื่องกล้วยๆแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็อย่าไปปฏิรูปเรื่องอื่นเลยครับ เหนื่อยเปล่า

ที่มา: Dr-Jidbhong Jayavasu 

"ไซครอป"(ยักษ์ตาเดียว)โรคแปลกประหลาดของความผิดปกติทางร่างกายที่เกิดขึ้นได้ทั้งคนและสัตว์

หลายคนอาจเคยได้ยินตำนาน "ยักษ์ตาเดียว" (cyclopes) มันเริ่มต้นมาจากมหากาพย์เรื่อง The Odyssey แต่มันก็เป็นเพียงตำนานเท่านั้นและยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงื่อนไขทางการแพทย์
โดยไซครอปเป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นจริงทั้งในมนุษย์และสัตว์ เป็นการพัฒนาที่ล้มเหลวของสมองทำให้เด็กที่เกิดมามีตาเดียวอยู่กลางใบหน้า
โดยไซครอปนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในสัตว์ทุก 1 ใน 200 ตัว แต่ส่วนใหญ่ก็เิกดขึ้นกับคน ซึ่งตาและสมองของผู้ป่วยมักจะรวมกันเป็นผลมาจากการพัฒนาที่ล้มเหลวของสมอง
เด็กที่เกิดมาป่วยเป็นไซครอปนั้นมักจะหาพบได้ยาก แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดมาลืมตาดูโลกได้ แต่ก็ต้องตายภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วัน
สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นแตกต่างกันออกไปทั้งหายใจไม่ออกเนื่องจากระบบทางเดินหายใจยังพัฒนาไม่ครบ ซึ่งหลังจากที่เสียชีวิตศพของเด็กเหล่านี้จะถูกนำไปเก็บรักษาไว้เพื่อทำการศึกษาต่อไป
และในบางรายมีบางสิ่งผิดปกติมากกว่านั้นอีกเพราะมีก้อนเนื้อยื่นออกมากลางหน้าผาก แต่กลับไม่มีจมูกหรือรูจมูกเลยนั่นเป็นเพราะจมูกไม่มีการพัฒนา
โดยโอกาสที่จะเกิดขึ้นในมนุษย์นั้นมี 1 ใน 16,000 คน ทั้งยังสามารถเกิดได้ในสัตว์หลายชนิดทั้งปลาฉลาม แมว แกะ หมู และม้า และนี่คือภาพกะโหลกของม้าที่เป็นไซครอปในปี 1841
ส่วนใหญ่นั้นทารกที่เป็นไซครอปนั้นไม่ว่าจะคนหรือสัตว์มักจะเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์หรือทันทีหลังจากที่คลอด นักวิทยาศาสตร์จึงต้องทำการศึกษาเพื่อหาทางรักษาต่อไป
ที่มา:http://www.clipmass.com/story/116955

Daniel Camargo ปีศาจแห่งป่าโกงกาง

ระหว่างเดือนธันวาคม ปี 1984 และกุมภาพันธ์ 1986 ได้เกิดความหวาดกลัวไปทั่วประเทศเอกวาดอร์ เมื่อมีการพบศพรายแล้วรายเล่าในสถานที่โดดเดี่ยวห่างไกลจากบ้านคนและในป่ารกร้าง สภาพศพนั้นเปลือยกายและบางศพถูกหั่นด้วยมีดพร้าศพที่ว่าเชื่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกรคนเดียวกัน เหยื่อเป็นหญิงสาวหลายช่วงอายุ หนึ่งในนั้นมีเด็กอายุ 8-9 ขวบรวมอยู่ด้วย พวกเธอทั้งหมดถูกข่มขืน ย่ำยีพรหมจรรย์จนเละชนิดสะใจฆาตกร

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการสังหารโหดนั้นมีเป็นชายคนหนึ่งชื่อ แดเนียล กามาร์โก้ ชายผอม ผิวคล้ำ
เหมือนขี้โรค แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยโรคจิตชอบผู้หญิง หมกหมุ่นอยู่กับความบริสุทธิ์ของผู้หญิง เขาคนเดียวสามารถ
ข่มขืนและบีบคอฆ่าผู้หญิงมากกว่า 71 คนซึ่งเป็นคนจำนวนคร่าวๆ ขณะที่เขาอยู่เอกวาดอร์ และสันนิษฐานว่าจำนวนเหยื่อ
ที่แท้จริงอายุมีมากถึง 150 คน .... เหยื่อของเขาส่วนใหญ่มักอยู่ในเขตปริมณฑลและโนโบล ซึ่งทั้งสองสถานที่รายล้อม
ไปด้วยป่าโกงกาง และนั้นเองทำให้เขามีฉายาว่า

“สัตว์ป่าแห่งป่าโกงกาง”


แดเนียล กามาร์โก้ (Daniel Camargo)



แดเนียล กามาร์โก้ เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1930 ที่ไหนสักแห่งในแอนดีส โคลัมเบีย (ไม่แน่ชัด)
ชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างเลวร้าย แม่ของเขาต้องเสียชีวิตในปีแรกที่เขาเกิด และพ่อของเขาแต่งงาน
กับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก ทำให้พ่อของแดเนียลมีปัญหาทางจิต อยากได้ลูกผู้หญิง 

ดังนั้นภาระอันหนักนี้จึงตกไปหาแดเนียลอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อพ่อจับตัวเขาแต่งเป็นผู้หญิงและบังคับให้เขาไปโรงเรียน
แน่นอนว่าแดเนียลต้องทนความอัปยศอดสู ต่อการล้อเลียนและหัวเราะเยาะเย้ยของเพื่อนร่วมห้อง หากไม่ทำ
พ่อจะลงโทษด้วยการเอาหมุดแทง

พ่อของแดเนียลเป็นคนที่ชอบความรุนแรงเผด็จการ หากแดเนียลทำอะไรผิด จะถูกเฆี่ยนดีอย่างโหดร้ายแบบไม่ปรานี ซึ่งกว่า
จะหยุดลงโทษต้องรอให้ลุงของแดเนียลมาช่วยเหลือ แดเนียลไม่เคยได้ความรักของพ่อ แม้ว่าเขาหัวดีและมีความปรารถนา
ที่จะศึกษาต่อ แต่เขากลับถูกพ่อบังคับให้ออกจากโรงเรียนเพื่อช่วยครอบครัวทำงานยิ่งทำให้เขาข่มขืนและไม่พอใจ
พ่อของตนมากขึ้นไปอีก

จิตใจของแดเนียลในวัยเด็กนั้นมีความชอบผู้หญิง และความเกลียดชังความแค้นผู้หญิงผสมคละเคล้าปนเปชนิดแยกกันไม่ออก
เขาเกลียดแม่เลี้ยงของตนเองที่เป็นคนไม่ชอบเด็ก โดยเฉพาะตัวของเขา เธอให้ท้ายพ่อให้เขาแต่งเป็นผู้หญิง เป็นเหตุให้เขาเก็บกดสะสมพัฒนามาเป็นความเกลียดชังผู้หญิง

ในปี 1960 เมื่อแดเนียลเติบโตป็นผู้ใหญ่ เขาก็พบผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ Alzira เขารักเธอมาก และจากครอบครัวเพื่อแต่งงานกับครอบครัว ซึ่งเขาหวังว่าจะมีความสุขหลังจากที่มีแต่ทุกข์ตั้งแต่วัยเด็ก หากแต่ปี 1967 ความสัมพันธ์ระหว่างเขาก็ขาดสะบั้นลง เมื่อเขาจับได้ว่าเธอนอนอยู่บนเตียงกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เธอมีชู้โดยที่เขาไม่รู้

ด้วยความผิดหวังและเจ็บแค้น เขาได้เกลียดชังผู้หญิงที่ตลบตะแลงเขา ผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์ ความผิดหวังความอดสู่ทำให้เขา
วางแผนการที่ชั่วร้ายการในการแก้แค้นพวกเธอเหล่านั้น ด้วยการก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในเวลาต่อมา

ในตอนแรกแดเนียลพยายามตามหาสาวบริสุทธิ์เพื่อข่มขืน โดยมีแฟนใหม่ร่วมมือกันช่วยเหลือหาสาวบริสุทธิ์มาให้ ด้วยล่อหญิงสาวไปที่อาร์ตเมนต์แล้วมอมยาสลับและข่มขืน ซึ่งแดเนียลก่อคดีในลักษณะดังกล่าว 5 รายซ้อน แต่ยังไม่ได้ฆ่าเหยื่อแต่อย่างใด
ส่วนมากเป็นเด็กถูกข่มขืนในขณะนอนหลับเพราะฤทธิ์ยา ก่อนที่ในปี 1964 เขาและแฟนใหม่ถูกตำรวจจับและถูกจับแยกห้องขัง
และถูกจำคุกในโคลัมเบีย

แดเนียลถูกตัดสินจำคุกเพียง 3 ปี ตอนแรกเขามีความคิดจะกลับตัวกลับใจ หากแต่ผู้พิพากษาได้ตตัดสินจำคุกใหม่เพิ่มอีก 8 ปีในคุก เป็นเหตุทำให้เขาโกรธแค้นต่อสังคมและความยุติธรรมมากขึ้น เขาสาบานว่าหากออกจากกรงขังไปได้เขาจะก่อคดีใหม่อีก
คราวนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เหยื่อหนีรอดสักราย เพื่อไม่ให้เป็นพยานเอาผิดเขา

ในปี 1973 แดเนียลถูกจับกุมในประเทศบราซิลเพราะไม่มีเอกสาร แต่เนื่องจากความล่าช้าในการส่งประวัติอาชญากร
ทำให้เขาเพียงแค่ถูกเนรเทศกลับโคลัมเบียเท่านั้น จากนั้นเขาก็ใช้ชื่อปลอมทำงานขายจอโทรทัศน์


และในช่วงนี้เองเขาก็พบเหยื่อรายแรกเขา เมื่อวันหนึ่งขณะที่เขาผ่านโรงเรียน เขาเกิดเห็นเด็กผู้หญิงอายุ 9 ขวบคนหนึ่ง
และเขาก็ต้องใจเธอ “ตกหลุมรัก”  จึงได้ลักพาตัว เด็กหญิงถูกข่มขืนอย่างไร้ความปราณี โดยไม่สนน้ำตาของเธอแม้แต่น้อย
ก่อนที่เขาจะบีบคอเพื่อฆ่าปิดปาก

อย่างไรก็ตามไม่นาน เขาก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แดเนียลถูกจับขังในคุกบนเกาะกอร์กอน ในโคลอมเบีย
ซึ่งถือว่าเป็นคุกที่แทบไม่มมีทางหลบหนี มันเป็นเกาะภูเขาไฟ ห่างกว่า 28 กิโลเมตรที่ห่างจากชายฝั่ง ตั้งอยู่ในมหาสมุทร
แปซิฟิกของโคลัมเบีย อีกทั้งรอบๆ เต็มไปด้วยกระแสน้ำเชี่ยวกราด

แต่สำหรับแดเนียลหาไม่สิ้นหวังไม่ เขาไม่ความคิดที่จะติดคุกจนก่อในสถานที่นี้แน่นอน เขาพยายามหาทางแหกคุก
แม้ว่าสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนจะหนาแน่น แต่ความจริงมันเป็นเพียงเกาะแห้งแล้งเล็กๆ ที่การคุมของเหล่าผุ้คุมไม่เข้มงวดมากนัก
ขอเพียงแค่มีโอกาสเล็กน้อยเท่านั้นก็สามารถหลบหนีได้อย่างง่ายดาย

ในบ่ายวันที่ 23 พฤศจิกายน 1984 แดเนียลได้สบโอกาสที่ผู้คุมไม่เห็น ใช้เรือเล็กโบราณที่ทิ้งร้างพายออกจากเกาะไป
เพื่อหนีไปหาอิสรภาพ แต่แดเนียลไม่ได้คิดเลยว่าในเรือนั้นไม่มีอาหารหรือน้ำสำหรับดื่มกินเลย เรียกง่ายๆ ว่าแดเนียลพายเรือ
โดยไม่มีคิดเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ จนหลายคนคิดว่าเขาจะตายกลางทาง แต่อย่างไรก็ตามหลังพายเรือมาได้สามวันเขาก็พบ
แนวชายฝั่งของทวีป เขาสามารถขึ้นฝั่งได้อย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อทางเจ้าหน้าที่โคลอมเบียทราบข่าวการหลบหนีของแดเนียล ก็ไม่ได้ออกตามหาเพราะเชื่อว่าเรือนจำกอร์กอนเป็นเรือนจำ
ที่มีความปลอดภัยสูงาสุด แม้นักโทษจะหลบหนีด้วยเรือพาย แต่กระแสน้ำที่แรงและเต็มไปด้วยปลาฉลามไม่น่าจะทำให้เขา
รอดไปได้

และด้วยความเชื่อว่าแดเนียลตายแล้ว ทำให้ไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่ออกตามหา แดเนียลจึงสามารถหลบหนีออกนอกประเทศ
ได้อย่างสบาย การเดินทางของแดเนียลใช้วิธีการโบกรถ และค่ำไหนก็นอนกลางทาง ทำแบบนี้ตลอดทาง จากโคลัมเบีย
ข้ามแดนมาบราซิล แล้วลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนมาถึงเอกวาเดอร์โดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้นคลื่นแห่งความหวาดกลัวก็ได้เกิดขึ้นในเอกวาเดอร์ ....!!!



โดยเริ่มต้นในวันที่ 18 ธันวาคม 1984 หญิงสาวอายุ 9 ปีคนหนึ่ง ในเมือง Quevedo (เป็นเมืองในภูมิภาคชายฝั่งของเอกวาดอร์)
หลังจากนั้นก็มีการหายตัวของหญิงสาวอายุต่ำกว่า 10 ปีอย่างต่อเนื่อง และที่น่าขนหัวลุกคือหลังการหายตัวของพวกเธอ
ไประยะหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏร่างของสาวพรหมจารีเหล่านั้นด้วยร่องรอยที่แสนโหดร้าย พวกเธอถูกบีบคอและถูกข่มขืนอย่างทารุณ
ศพเปลือยเหล่านั้นอยู่ในสถานที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ มักจะอยู่บนริมถนนโนโบล

แม้ผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถระบุสาเหตุที่จริงการเสียชีวิตของสาวพรหมจารีเหล่านั้น ตอนแรกตำรวจไม่เชื่อว่าเป็นฝีมือของฆาตกร
ต่อเนื่องคนเดียวกัน เพราะในประเทศมีแก๊งต่างๆ มากมาย น่าจะเป็นฝีมือของพวกนั้นมากกว่า แต่ความจริงแล้วทั้งหมดเป็นฝีมือ
ของชายที่เพียงเดียว

อย่างไรก็ตาม ชายเมืองคิดผิด เพราะว่าแดเนียลเป็นพวกไม่มีที่อยู่หลักแหล่ง อยู่ไหนนอนนั้น ไม่มีเงินก็ขอทานในท้องถนน
เงินส่วนมากมาจากเงินเล็กๆ น้อยที่ติดตัวเหยื่อเท่านั้น หรือไม่ก็ขายของประดับและเสื้อผ้าของเหยื่ออื่นๆ แม้ว่าจะน้อยแต่เขา
ก็สามารถอยู่ได้สบายๆ เพราะอาหารทั่วไปราคาถูกมาก ทำให้เขาเดินทางไปหลายเมืองและไปก่อคดีขึ้นที่นั้น

เมื่อที่เดเนียลก่อคดีประกอบไปด้วย Guayaquil, Quito, Ambato, Machala, Nobol, Quevedo  ทำให้หลายฝ่าย
ยากที่จะป้องกันและรับมือการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นได้

แดเนียลก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1984-1986 สังหารผู้หญิงอย่างน้อย 54 ราย เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กสาว
ที่กำลังอยู่วัยเรียนหรือแม่บ้านที่อยู่คนเดียว เหยื่อเหล่านี้อ่อนแอไม่สามารถใช้กำลังขัดขืนเขาได้




วิธีการลอกหล่อเหยื่อของแดเนียลคือ เขาจะทำการหาเด็กสาวที่เป็นเหยื่อ ส่วนมากจะเป็นชนชั้นล่าง
และเมื่อเลือกเหยื่อได้เขาจะเดินเข้าไปใกล้และทำเป็นคนต่างด้าวตีสนิท พร้อมบอกว่าเขาจะไปหาบาทหลวงนิกายโปรเตสแตนท์
ที่อยู่ชายเมือง โดยอยากให้ไปส่งโดยแลกกับเงินตอบแทน ที่พอทำให้เด็กไม่สามารถปฏิเสธได้ และเมื่อแดเนียลพาเหยื่อ
เข้าไปในป่าที่ไร้ผู้คน เขาก็จัดการพวกเธอด้วยการจับข่มขืน และบีบคอ บางครั้งก็ใช้มีดแทงหากเหยื่อต่อด้าน
และเมื่อเหยื่อเสียชีวิต เขาก็ซ่อนเธอในป่าเพื่อให้ศพพบเห็นยากเท่าที่จะทำได้

การฆ่าและข่มขืนไม่เลือกหน้าทำให้แดเนียลย่ามใจ และทวีความโหดเหี้ยมมากขึ้น ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามที่จะ
เก็บรายละเอียดทั้งหมดของผู้ตกเป็นเหยื่อของเขาทั้งหมดเอาไว้ในความทรงจำให้ได้มากที่สุด เห็นได้จากหลังจากถูกจับกุม
เขายังให้การการก่อคดีฆาตกรรมอย่างละเอียดแม้จะฆ่าเหยื่อเป็นหลักร้อยก็ตาม

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แดเนียลถูกตำรวจจับกุมตัวในกีโต ไม่กี่นาทีหลักงจากเขาฆ่าเด็กผู้หกญิงอายุ 9ปีชื่อลิซาเบธ
ตำรวจที่กำลังลาดตะเวนได้เป็นที่เขาซึ่งมีพฤติกรรมพิรุธเข้าพอดี ในเวลานั้นเขาอยู่ในสภาพเหมือนขอทาน ใส่เสื้อผ้า
ขาดกะรุ่งกะริ่ง กระเป๋าเดินทางมีเสื้อผ้าเปื้อนเลือกจำนวนมาก รวมไปถึงเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของเหยื่อล่าสุด
ซึ่งหลักฐานที่มีเพียงพอที่เขาจะเป็นฆาตกรเด็กน้อยไร้เดียงดังกล่าวแล้ว

แดนียลถูกนำตัวเข้าห้องขัง และถูกสอบสวน เขาสารภาพอย่างใจเย็นว่าทำการข่มขืนและฆาตกรรมเด็กสาว
หากแต่ไม่ใช่เพียงคนเดียว แต่เขาสังหารเหยื่อเป็นร้อยนับตั้งแต่หนีออกจากคุก  

แดเนียลได้พาเจ้าหน้าไปยังบริเวณที่ทิ้งขยะซึ่งที่นั้นเขาได้ทิ้งร่างของเหยื่อเอาไว้ ซากศพส่วนใหญ่ยังไม่มีใครพบเห็น
ร่างกายเน่าไปบางส่วน เจ้าหน้าที่ได้ให้การว่าแดเนียลนั้นเป็นฆาตกรซาดิสต์เลือดเย็นอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่มี
ความรู้สึกสำนึกผิดแม้แต่น้อย แดเนียลยังเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหยื่อของเขาต้องบริสุทธิ์ พรหมจารี หากเหยื่อ
มีความบริสุทธิ์เขายิ่งมีความพึ่งพอใจมากขึ้น เขาฆ่าพวกเธอตายเพราะต้องการแก้แค้นความไม่ซื่อสัตย์ของผู้หญิง

จากการสอบสวนพบว่าฆ่าไปประมาณ 71 ราย หลังจากพิจารณีคดีแดเนียลถูกตัดสินจำคุก 16 ปี และเขาคุก
อยู่ร่วมกับเปโดร อลองโซ โลเปซฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นที่รู้จักกันในฉายาสัตว์ประหลาดแห่งแอนดีสที่ถูกฆ่าไป 300 ราย



ในเดือนมิถุนายน 1983 ฟรานซิส คอร์เดโร นักข่าวหนังสือพิมพ์ในประเทศได้มาขอสัมภาษณ์แดเนียลในคุก
ซึ่งเป็นเรื่องยากมากเพราะว่าเป็นนักโทษอันตราย ดังนั้นนักข่าวจึงแกล้งปลอมตัวเป็นนักจิตวิทยาทำให้ได้รับ
อนุญาตได้ง่ายขึ้น

ฟรานซิสได้ห้าสัมภาษณ์ภายหลังว่าแดเนียลเป็นคนผอม ตัวเล็ก (1.65 เมตร) มีผมบางและหน้าผากกว้างโค้งอย่างชัดเจน
มือมีขนาดใหญ่ เพราะสูบบุหรี่จัดทำให้ปากของเขาคล้ำ จนดูเหมือนคนขี้โรค มากกว่าฆาตกรต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามแดเนียลคนฉลาด (จากการทดสอบเชาว์ปัญญาพบว่าเขามีไอคิว 116 ซึ่งเกินค่าเฉลี่ย 100) เขาตอบ
คำถามทุกอย่าง ความรู้ของเขาเกิดกว่าคำธรรมดาเพราะอ้างว่าในเวลาว่างๆ ในขณะจำคุกก่อนหน้าเขาได้ศึกษา
วรรณกรรมในห้องสมุดคุกหลายเล่ม ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยาของ ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (และอีกหลายคน) รวมไปถึงศาสนา

แดเนียลถูกขังคุกในเรือนจำสูงสุดในเอกวาดอร์ และเขาได้อ้างว่าได้เปลี่ยนนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาในเดือน
พฤศจิกายน 1994 เขาถูกฆ่าตายโดยนักโทษที่ญาติเป็นหนึ่งในเหยื่อของเขา จากพยานเล่าว่าในขณะที่แดเนียล
คิดว่าเป็นวันที่เงียบสงบอยู่นั้น จู่ๆ นักโทษที่เป็นคู่กรณีก็คว้าเขาและให้นั่งคุกเข่า และนักโทษคนนั้นก็พูดว่า

“มันเป็นเวลาสำหรับการแก้แค้น” 

เขาเขาก็ถูกแทงไปแปดแผล จากนั้นก็นักโทษคนนั้นก็ดื่มเลือดเขาเท่าที่จะทำได้ (ก่อนที่พวกผู้คุมจะมาจับตัว)
และนั้นเป็นจุดจบของชายที่ชื่อแดเนียล กามาร์โก้ ศพของเขาถูกนำไปเผาและฝังในสุสาน 798 El Batan






ที่มา: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=140301.0 
อ้างอิง 

เพิ่มเพื่อน


----------------------------------------------------------------------------


Wow เรื่องน่าสนใจอื่นๆ This Week !!
 

----------------------------------------------------------------------------




Videos